การตั้งราคาเพื่อขายที่อยู่มือสอง

หากเราจะขายบ้าน หรือ ที่อยู่อาศัย การตั้งราคาขายก็เป็นส่วนหนึ่ง ในการตัดสินใจ สำหรับผู้ซื้อ หากเราตั้งราคาที่สูงเกินความจริง โอกาสที่จะขายได้ก็แทบจะไม่มี แต่หากตั้งราคาต่ำจนทำให้เราแทบไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้น การตั้งราคาขายบ้านมือสองนั้น มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ดังนี้

  1. ขนาดของบ้าน : ขนาดของบ้านมีผลต่อราคาด้วย โดยบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า หรือมีห้องนอนหลายห้อง อาจมีราคาสูงกว่าบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยและมีห้องนอนน้อยกว่า

2.สถานที่ตั้งของบ้าน : บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความต้องการสูงหรือมีความสะดวกสบายเช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง หรือตลาด อาจมีราคาสูงกว่าบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีความสะดวกสบายเหล่านี้

3. สภาพบ้าน : สภาพบ้านที่ดี อย่างเช่นบ้านที่มีการซ่อมแซมและปรับปรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะมีราคาสูงกว่าบ้านที่สภาพไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบ้านมีซ่อมแซมที่จำเป็น เช่น ซ่อมแซมเครื่องทำน้ำอุ่น หรือเปลี่ยนท่อน้ำ โดยที่ผู้ขายได้ทำการซ่อมแซมและปรับปรุงให้เรียบร้อยแล้ว

4. อายุของบ้าน : บ้านที่มีอายุมากกว่า 20 ปี อาจมีราคาถูกกว่าบ้านที่มีอายุน้อยกว่านี้ เนื่องจากอายุของบ้านส่งผลต่อความหลุดหลิวของโครงสร้างและการใช้งาน

4. สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีขนส่งสาธารณะ เช่น BTS หรือ MRT จะมีความสะดวกสบายในการเดินทางและเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานที่ต่างๆ ใกล้ศูนย์การค้าเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ โรงเรียนและมหาวิทยาลัย

5. เหตุผลของผู้ขาย : หากเจ้าของบ้านมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน ก็อาจจำเป็นที่จะต้องตั้งราคาให้ดึงดูดผู้ซื้อ แต่หากเจ้าของบ้านต้องการขายด้วย เหตุผล อื่น ๆ

ดังนั้น การตั้งราคาที่จะขาย มีหลายปัจจัยให้พิจารณา ไม่ใช่ เพียงแต่ เอาความต้องเจ้าของบ้าน เป็นหลัก ราคาใกล้เคียง แถวนั้น สภาพบ้าน ทำเล ความเสื่อมโทรมของบ้าน ก็เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องในการตั้งราคาขายที่เหมาะสม เพื่อให้ขายได้ง่ายและไวขึ้น

ทางทีม นิษา เรียลเอสเตท หวังว่า ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องการจะขายบ้านนะคะ

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ :
  • รับฝากขาย จัดหา บ้าน ที่ดิน คอนโด พร้อมสินเชื่อ : https://nisarealestate.com

NISA Real Estate นายหน้าขายบ้าน มืออาชีพ มี คุณภาพ ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในด้านการตลาดและการขาย พร้อมให้คำแนะนำค่ะ